====== การสร้าง Slide ด้วย LaTeX ======

==== การสร้าง Slide เราจะใช้ Beamer class ====

ฺBeamer class จะเป็นการสร้าง slide ขนาด 128 x 96 mm ที่สามารถวางวัตถุซ้อนๆ ใน slide ได้ มี Theme ให้ใช้งานได้บ้าง 
สามารถนำไปสร้าง presentation, handout หรือ บทความต่างๆ ได้ [[http://www.mathematik.uni-leipzig.de/~hellmund/LaTeX/beamer2.pdf|reference]]
  
เราจะเริ่มต้นไฟล์เอกสารด้วย

  \documentclass[...]{beamer}

โดยที่ [...] เป็น optional ซึ่งสามารถแทนค่าด้วย
  * 8pt, 9pt, 10pt, 11pt ขนาดของตัวหนังสือ
  * draft ใช้เมื่อไม่ต้องการให้แสดง graphic, footer
  * handout ทำเป็น Handout โดยต้องเพิ่มคำสั่งข้างล่าง
    * \usepackage{pgfpages}
    * \mode<handout>{\pgfpagesuselayout{2 on 1}[a4paper,border shrink=5mm]}
==== Theme ====
จะแทรก Theme ไว้หลัง \documentclass ตัวอย่าง theme ได้แก่
  \usetheme{default}  very simple
  \usetheme{Madrid} blueish, no navigation bars
  \usetheme{CambridgeUS} red, no navigation bars
  \usetheme{Antibes} blueish, tree-like navigation bar
  \usetheme{Berkeley} blueish, table of contents in sidebar
  \usetheme{Marburg} sidebar on the right
  \usetheme{Berlin} navigation bar in the headline
  \usetheme{Szeged} navigation bar in the headline, horizontal lines
  \usetheme{Malmoe} section/subsection in the headline
==== Titlepage ====
หน้าแรกของเอกสาร เราสามารถใส่ข้อความได้เป็นหัวข้อๆ ได้แก่
  * \title{A very long Title \ \ over several lines}
  * \subtitle{A subtitle}
  * \date{Today}
  * \author{Steven Gerrard}
  * \institute{University}

ซึ่งหัวข้อเหล่านี้จะเขียนไว้ก่อน \begin{document} หากมีผู้เขียนหลายคน

  \author{Author1\inst{1} \and Author2\inst{2}}
  \institute{
    \inst{1}Department of A \and
    \inst{2}University B
  }

==== สร้างหน้า slide ====
ในการสร้างหน้า slide 1 หน้า จะใช้คำสั่ง frame
  \begin{frame}[...]{Title}{Subtitle}...
  \end{frame}

โดยที่ [...] เป็น optional ซึ่งสามารถแทนค่าด้วย
  * plain หน้าเปล่าไม่มี header footer
  * squeeze ให้บรรทัดชิดกัน
  * shrink=0..100 ลด size ทุกอย่างลง n เปอร์เซนต์
  * b,c or t จัดเรียงแนวดิ่ง (vertical) ว่าชิดล่าง (bottom), ตรงกลาง (center) หรือ ชิดบน (top)

ส่วนหน้าแรกเมื่อเรากำหนดหัวข้อต่างๆ เรียบร้อยแล้วเราจะสร้าง slide ด้วยคำสั่ง \maketitle

  \begin{frame}
  \maketitle
  \end{frame}

==== สร้างกล่อง (block) ====
กล่องมี 3 แบบ
  * กล่องปกติ \begin{block}{Block Title}...\end{block}
  * กล่อง title เข้ม \begin{alertblock}{Alert Block Title}...\end{alertblock}
  * กล่อง title จาง \begin{exampleblock}{Example Block Title}...\end{exampleblock}
หมายเหตุ เนื่องจาก Title ต้องมีหากไม่ต้องการให้มี Title ให้ใส่ว่า \begin{block}{}


==== การทำหลาย column ====
จะเริ่มต้นด้วย \begin{columns} แล้วภายในอยากให้มีกี่ column ก็แทรก \begin{column}[t]{5cm}
  \begin{columns}
    \begin{column}[t]{5cm}
    ....
    \end{column}
    \begin{column}[t]{5cm}
    .....
    \end{column}
  \end{columns}
  
==== การทำ overlay ====
จะเป็นการเขียน slide แผ่นเดียวแต่พอ compile แล้วจะสร้างเป็นชุดให้ โดยตัวหนังสือจะเหมือนค่อยๆ โผล่ออกมาทีละ slide เลขหน้าจะไม่เพิ่ม
จะเริ่มต้นด้วย \begin{itemize} แต่ละหัวข้อที่ต้องการให้โผล่จะอยู่ในรูป 
  * \item<1- > โผล่ตั้งแต่ layer ที่ 1 เป็นต้นไป<\file>
  * \item<4> โผล่เฉพาะ layer ที่ 4
  * \item<3,5- > โผล่ layer ที่ 3, หายไป layer ที่ 4, โผล่ layer ที่5 เป็นต้นไป
  * \item<3-5> โผล่เฉพาะ layer ที่ 3 ถึง 5

  \begin{itemize}
  \item<1-> from first layer on
  \item<2-> from second layer on
  \item<4>  only in the 4. layer
  \item<3,5-> in the 3., 5. and all further layers
  \end{itemize}
==== การทำ appendix ====
ทุก slide หลังจาก appendix จะไม่แสดงในสารบัญ แต่จะมีผลกับเลขหน้า(เลขหน้านับให้)
  \section{...}
  \begin{frame} ... \end{frame}
  \appendix
  \begin{frame} ... \end{frame}
  \begin{frame} ... \end{frame}
==== การแทรก link ไปหน้าอื่น ====
เราจะใส่ tag hypertarget เพื่อกำหนดหมุดไว้ยังหน้าที่เราต้องการ จากนั้นจะใส่ tag \hyperlink เพื่อสร้าง link ไปยังหน้านั้นเหมือน html 
เริ่มต้นกำหนด \hypertarget โดย
  \hypertarget{bla1}{}
หรือ
  \hypertarget<2>{blum3}{}
เมื่อต้องการสร้างปุ่มกดไปยังหน้าอื่น ใช้คำสั่ง \hyperlink{หน้าที่ต้องการไป}{ลักษณะปุ่ม{ข้อความบนปุ่ม}} ตัวอย่างเช่น
  \hyperlink{bla1}{\beamergotobutton{go to bla1}} and another one:
  \hyperlink{blum3}{\beamergotobutton{go to blum3}}

ลักษณะปุ่มมี 3 แบบหลักๆ คือ
  * มีลูกศรไปข้างหน้า \beamergotobutton{go to hell}
  * มีลูกศรไปข้างหน้าสองอัน \beamerskipbutton{go to x}
  * มีลูกศรย้อนกลับ \beamerreturnbutton{go to y}